การเลือกลิปสติกนอกจากผู้หญิงหลายคนจะเลือกจากแพ็กเกจที่น่ารักจนสะดุดสายตาแล้ว การ ‘ เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว ’ ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะต่อให้แพ็กเกจสวย น่ารัก ขนาดไหน แต่หากคุณเลือกสีลิปที่ไม่เข้ากับสีผิวของคุณก็อาจทำให้การแต่งหน้าวันนั้นดูไม่ปังหรือใบหน้าดูไม่สดใสได้ หากคุณอยากรู้ว่าแต่ละสีผิวต้องทาลิปสติกสีไหนถึงจะเข้ากับผิวและทำให้ใบหน้าดูสวย เปล่งปลั่งมากที่สุด วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว


ทำความรู้จักกับ ‘อันเดอร์โทน’ ผิวของคุณอยู่โทนสีผิวไหน

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

อันเดอร์โทนสีผิว (Undertone) คือ สีของผิวหนังของคุณซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสีจริง ๆ ที่ดูจากเม็ดสีเมลานินภายใต้ผิวหนัง หากคุณรู้จักกับโทนสีผิวของคุณแล้วมันจะช่วยให้คุณหาเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ รวมถึงเครื่องประดับและเฉดสีการแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น โดยอันเดอร์โทนสีผิวจะแบ่งออกเป็น 3 โทน ดังนี้

  • สีผิว Cool Tone : โทนสีผิวนี้จะเรียกว่า ‘ผิวโทนเย็น’ หรือ ‘ผิวโทนชมพู’ ให้คุณสังเกตที่ข้อมือหากมีเส้นเลือดเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในโทนสีผิวนี้ ซึ่งเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางที่เหมาะกับคนสีผิวโทนนี้จะได้แก่ สีเขียว สีพีช สีฟ้า สีชมพู สีน้ำตาลนู้ด สีเขียวอมฟ้า สีฟ้าพาสเทล สีส้มนู้ด สีม่วง สีม่วงแดง สีแดง เป็นต้น
  • สีผิว Warm Tone : โทนสีผิววอร์มโทน คือ ‘โทนผิวร้อน’ หรือ ‘ผิวเหลือง’ หากสีเส้นเลือดของคุณออกเป็นสีเขียวหรือเขียวขี้ม้า แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในระดับนี้ คุณสามารถสวมเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางเฉดสีกลาง เช่น สีครีม สีเบจ สีส้ม น้ำตาล ส้มอมชมพู หรือเหลืองอมเขียว เป็นต้น
  • สีผิว Neutral Tone : โทนสีผิวธรรมชาติ คือโทนสีผิวกลาง ๆ ระหว่างสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งโทนนี้เรียกได้ว่าเป็นสภาพโทนสีผิวที่แต่งตัวหรือแต่งหน้าได้ง่ายมาก ๆ เพราะสามารถสวมเสื้อผ้าหรือใช้เครื่องสำอางโทนสีไหนก็ได้ หากเส้นเลือดของคุณเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในระดับนี้

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว เทคนิคง่าย ๆ รอดทุกลุค-วิธีเลือกลิปสติก

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

ผิวขาว

สีลิปสติกสำหรับคนผิวขาว ควรเลือกสีที่เหมาะสมกับสีผิวของคุณเพื่อที่จะได้ช่วยขับผิวให้ดูขาวและหน้าดูเปล่งประกาย โดยสีที่เหมาะสมสำหรับคนผิวขาวจะเป็นสีลิปสติกโทนชมพู แดง หรือส้ม ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งสีเหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นสีพื้นและเป็นไอเท็มเครื่องสำอางที่ผู้หญิงควรมี แต่สิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งของคนผิวขาวก็คือหากเลือกสีลิปสติกที่เป็นโทนอ่อนมากเกินไปอาจทำให้หน้าดูหมองและไม่สดใสได้

ผิวขาวเหลือง

ลิปสติกสำหรับคนผิวขาวเหลือง อาจเลือกเป็นประเภทของสีลิปสติกที่มีสีเข้มขึ้น เช่น น้ำตาลตุ่น สีบานเย็น หรือสีส้มอิฐ จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวสีนี้เพราะจะทำให้ใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ผิวเข้ม 

สำหรับคนผิวเข้ม สีลิปสติกที่เหมาะสมเรียกได้ว่าแทบจะทุกเฉดสี เพราะถึงแม้ว่าคนสีผิวนี้จะมีอันเดอร์โทนสีน้ำตาลเยอะแต่ก็สามารถทาลิปสติกได้หลายเฉดสีไม่จำเป็นต้องเป็นโทนใดโทนหนึ่งเท่านั้น แต่หากคุณเลือกทาลิปสติกสีนู้ด น้ำหรือ หรือสีแดงแบบเข้ม ๆ จะช่วยขับผิวได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็ม แต่เพียงแค่ทาลิปสีเหล่านี้ก็สามารถออกจากบ้านได้แบบไม่ดูโทรมแล้ว

ผิวสองสี

ลิปสติกสำหรับคนที่มีสีผิวสองสีสามารถเลือกได้หลายเฉดสีเช่นเดียวกับคนผิวเข้ม เพราะคนโทนสีนี้สามารถแต่งหน้าให้สวยละมุนได้ง่าย แต่สำหรับสีลิปสติกที่เข้ากับคนสีผิวโทนนี้มากที่สุดอาจเลือกเป็นสีโทนอิฐอย่างโทนส้มแดง สีชมพูอมส้ม หรือสีโทนนู้ด รวมถึงสีแดงเข้มหรือแดงกุหลาบก็สามารถทาลิปสติกสีนี้ได้เช่นกัน


เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว อย่างไรให้ปลอดภัยต่อร่างกาย

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

การใช้สีลิปสติก ช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณดูสวยงามและใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่อย่าลืมว่าการใช้ลิปสติกนั้นต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำในการใช้งานและเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณภาพดี หรือเลือกเครื่องสำอางไทยคุณภาพดีก็ได้  เพื่อป้องกันการเกิดอาการผิดปกติหรืออาการแพ้ มาดูกันว่าจะต้องเลือกลิปสติกอย่างไรให้ปลอดภัยต่อร่างกาย

1. หลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีน้ำหอม

การใช้ลิปสติกที่มีน้ำหอมอาจทำให้ลิปสติกมีความน่าซื้อและน่าใช้มากยิ่งขึ้น แต่อย่าลืมว่าน้ำหอมสามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้น คุณควรเลือกใช้ลิปสติกที่ไม่มีน้ำหอมเพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ โดยสามารถดูข้อมูลส่วนประกอบเกี่ยวกับน้ำหอมที่ใช้บนฉลากลิปสติก 

2. หลีกเลี่ยงลิปสติกที่ใส่สารกันเสีย

แม้ว่าสารกันเสียจะมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมายโดยการช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่บูดหรือเสียไปก่อน แต่สารกันเสียบางชนิดก็อาจส่งผลเสียได้เช่นกันหากร่างกายได้รับสารชนิดนี้เข้าไปสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งสารกันเสียที่ส่งผลเสียให้กับร่างกาย คือ Benzyl Benzoate, Parabens, BHT, Terpenes และ Phenoxyethanol  

3. ไม่ควรใช้ลิปสติกที่มีสารอันตราย

ลิปสติกบางชนิดอาจมีสารอันตรายเป็นส่วนผสมอยู่ ซึ่งสารอันตรายที่พบได้ในลิปสติกบางชนิดประกอบไปด้วย สารหนู สารตะกั่ว แอนติโมนี แคดเมียม หรือแมงกานีส หากลิปสติกมีสารเหล่านี้ผสมอยู่อาจทำให้ส่งผลต่อระบบประสาท ระบบหัวใจ หลอดเลือด รวมถึงอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้ด้วยเช่นกัน

4. เช็ควันหมดอายุของลิปสติก

ลิปสติกหมดอายุอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ส่วนใหญ่แล้วหลังจากการเปิดใช้งานลิปสติกทั่วไปจะสามารถใช้งานได้อีกประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าหากเป็นประเภทลิปกลอสจะสามารถใช้งานได้เพียง 1 ปีเท่านั้นจึงจะดีที่สุดต่อริมฝีปากของคุณ

5. เลือกลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาแพ้สารปรอทหรือผู้ที่แพ้ต่อสารต่าง ๆ ได้ง่าย ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจประกอบด้วยสารพิษต่ำกว่าลิปสติกที่มีส่วนผสมจากสารเคมี แต่ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจมีปริมาณสารป้องกันเสียน้อยกว่า ซึ่งอาจทำให้ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมีความแข็งแรงน้อยกว่าหรือใช้งานได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าเท่านั้นเอง แต่มันก็นับว่าเป็นลิปสติกสีติดทนนานด้วยเช่นกันหากคุณเลือกที่มีคุณภาพดีสักหน่อย


เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว หากคุณรู้ว่าโทนผิวของคุณอยู่ในระดับไหนก็จะช่วยให้คุณเลือกสีลิปออกได้อย่างตรงใจ ทำให้ทาแล้วช่วยขับใบหน้าและทำให้ใบหน้าดูสดใสไม่หมองคล้ำได้ ที่สำคัญหากคุณได้สีลิปสติกที่ตรงใจแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบรายการสารสกัดว่ามีส่วนประกอบที่อาจทำให้คุณแพ้หรือไม่ หรือตรวจสอบวันหมดอายุของลิปสติกก่อนใช้งานเพื่อให้ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ออกมาสวยสมบูรณ์แบบและใช้งานได้ดีที่สุด


อ้างอิง : 

Author