Tag

ขั้นตอนการทาครีมทาผิว

Browsing

เลือกใช้ครีมให้เหมาะกับผิวหน้ายังไงดี ให้หน้ากระจ่างใส

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะยืดหยุ่นน้อยลงและกักเก็บน้ำมันและน้ำได้น้อยลง ซึ่งจะทำให้ผิวแห้งตึงและยืดหยุ่นน้อยลง เพื่อต่อสู้กับสิ่งนี้ หลายคนหันไป เลือกใช้ครีม ทาหน้าเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและปกป้องผิว ครีมบำรุงผิวหน้ามีหลายประเภทและแต่ละประเภทก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป


หน้ามัน แห้ง ผิวผสม หรือแพ้ง่าย เลือกใช้ครีม บำรุงผิวหน้ายังไงดี

หลายคนที่กำลังมองหาครีมบำรุงผิวหน้านั้น อาจจะเกิดข้อสงสัยว่าในเมื่อผิวของเราแต่ละคนนั้นมีสภาพที่แตกต่างกัน อย่างนั้นแล้วแต่ละสภาพผิวนั้นควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแบบใดจึงจะได้ประโยชน์ และทำให้สุภาพผิวได้อัปเกรดมากที่สุด วันนี้เราจะไปดูว่าสภาพผิวแบบต่างๆ ควร เลือกใช้ครีม บำรุงผิวหน้าแบบไหนถึงจะดีต่อผิว

หน้ามัน แห้ง ผิวผสม หรือแพ้ง่าย เลือกใช้ครีม บำรุงผิวหน้ายังไงดี

ผิวธรรมดา

คนที่มีผิวธรรมดานั้นถือว่าโชคดีมาก เพราะว่าผิวธรรมดาเป็นผิวที่ดูแลได้ง่ายมาก ไม่ต้องคอยหงุดหงิดกับความมันที่เกิดขึ้นได้ง่าย และก็ไม่ต้องคอยดูแลเรื่องผิวแห้งกร้าน เพราะว่ามีรูขุมขนที่ละเอียดมาก ขอเพียงเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่มีผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในการทาผิวพรรณตอนเช้าและก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว หรือหากว่าต้องออกกิจกรรมระหว่างวันที่ต้องพบเจอกับแสงแดด อาจจะทาครีมป้องกันรังสียูวีหรือครีมกันแดดรองพื้น เพื่อช่วยเรื่องการปกป้องผิวด้วยก็ได้ ถือว่าผิวธรรมดาดูแลกันได้ง่ายจริงๆ

ผิวมัน

ผิวมัน ถือว่าเป็นสภาพผิวที่สามารถเกิดสิวได้ง่ายมากๆ และปัญหาเรื่องสิวเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและร่องรอยของจุดด่างดำที่น่าหงุดหงิด ทำให้สีผิวไม่เรียบเนียน ครีมสำหรับคนหน้ามันที่ควรเลือกใช้ ควรไม่มีสารประกอบของน้ำมัน และใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนประกอบของน้ำ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น และต้องเป็นชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอมหรือพวกสารกันเสียต่างๆ ที่จะทำให้ผิวอุดตัน แต่ว่าคนที่ผิวมันนั้นก็มีข้อดีเช่นกันเพราะว่าจะชะลอการแก่โดยอัตโนมัตินั่นเอง จะมีริ้วรอยน้อยมาก เพราะว่าผิวไม่แห้ง

ผิวแห้ง

คนที่มีผิวแห้งนั้นมักจะสภาพผิวที่ไม่เรียบเนียน เพราะผิวแห้งจะสูญเสียน้ำอยู่ตลอดเวลา ผิวจะเป็นขุยได้ง่าย ขาดความยืดหยุ่น ดังนั้นไม่ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือล้างหน้าบ่อยเกินไป ควรใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่ผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรืออาจจะใช้ไนท์ครีมบำรุงผิวที่ผสมน้ำมันก็ได้เพื่อช่วยในการกักเก็บน้ำ แต่สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงอย่างมากคือ ครีมบำรุงผิวหน้าที่ผสมแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแห้งและเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

ผิวผสม

ผิวชนิดนี้จะเกิดสิว เกิดรอยได้ง่าย และดูแลได้ยากมาก ในส่วนของคนไทยจะมีผิวสภาพนี้ค่อนข้างเยอะ สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการทาครีมบำรุงผิวหน้าคือ การทาครีมบำรุงผิวหน้าบริเวณทีโซน เพราะว่าบริเวณนี้จะเกิดสิวได้ง่ายมาก บริเวณโหนกแก้มต้องระวังเรื่องผิวแห้งอีกด้วย ส่วนครีมบำรุงผิวหน้าที่ควรเลือกนั้นมีการผลิตครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับคนที่มีผิวผสมค่อนข้างเยอะ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดหลากหลายยี่ห้อ

ผิวบอบบางแพ้ง่าย

อีกหนึ่งผิวที่ดูแลได้ยาก เพราะว่าใช้ครีมบำรุงผิวหน้าก็มักจะแพ้อยู่ตลอด อาจจะคัน มีสิวขึ้น มีรอยแดง หรืออาจทำให้ผิวหน้าบอบช้ำได้เลย ครีมบำรุงผิวหน้าที่เลือกใช้จึงควรเลือกครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้กับผิวของเด็ก และสำหรับผิวที่แพ้ง่ายเท่านั้น

ทั้งหมดนี้คือการ เลือกใช้ครีม ตามสภาพผิวต่างๆ ของคนเราที่พบได้ส่วนใหญ่ ไม่ว่าคุณจะมีผิวแบบไหนก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้วในการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าให้ถูกต้องกับสภาพผิว นอกจากนี้ยังมีครีมหน้าใสที่น่าสนใจมากฝากทุกคนอีกด้วย จะมีแบรนด์ใดบ้างตามไปดูกัน


เลือกใช้ครีม ช่วยหน้าใสยี่ห้อไหนดี 15 ไอเทม จัดด่วน ได้ผลจริง

สำหรับสาวๆ ที่อยากจะซื้อครีมหน้าใส หน้าขาวมาทาเพื่อช่วยเสริมความสาวความสวยให้อยู่ยงคงกระพัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อยี่ห้ออะไร ที่ไหนดี เพราะมีหลายยี่ห้อที่ทำออกมาและก็มีหลายคำแนะนำที่เคยได้ยินมา ดังนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาช่วยจัดอันดับ 15 ครีมหน้าใสที่ได้ผลจริงๆ กับสาวๆ ทั่วประเทศมาแล้ว ไปดูกันเลยว่ามีครีมหน้าใสยี่ห้อไหนติดอันดับบ้าง

เลือกใช้ครีม Olay Natural White

อันดับ 15 

Olay Natural White นี่คือแบรนด์ที่หลายคนรู้จักอย่างแน่นอน และโอเลย์ก็ครีมทาผิวที่หาได้ง่ายและราคาก็ไม่แพง สามารถซื้อขนาดเล็กและแบบซองมาลองใช้ได้ด้วย ซึ่งก็ดูเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าทำไมต้องมาอยู่ในอันดับที่ 15 ล่ะ ก็เพราะว่าโอเลย์ชนิดนี้ช่วยให้หน้าขาวแค่อย่างเดียว แต่ไม่ช่วยในการรักษาสิวฝ้าและรอยจุดด่างดำใดๆ ทั้งสิ้น แต่ข้อควรระวังก็คือสาวผิวมันไม่ควรใช้ครีมนี้เลย

เลือกใช้ครีม Garnier

อันดับ 14 

Garnier หรือที่เรียกว่า การ์นิเย่ นั่นแหละ ซึ่งนี่ก็เป็นครีมหน้าขาวที่หลายคนชอบมากๆ ประโยชน์ของครีม คือเห็นผลเร็วเมื่อเทียบกับครีมหน้าใสชนิดอื่นๆ และยังช่วยขจัดจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี แต่ครีมการ์นิเย่ก็มีความเข้มข้นของ AHA เยอะมาก ซึ่งอาจทำให้หลายคนรู้สึกแสบผิวได้ และไม่เหมาะกับสาวผิวบางเป็นอย่างมาก

ครีม Hadalabo เซรั่ม อาร์บูติน

อันดับ 13

Hadalabo เซรั่ม อาร์บูติน ซึ่งเป็นเซรั่มที่สาวๆ ชอบมาก เพราะครีมมีความบางและสามารถทาสนิทไปกับผิวหน้าได้เลย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความยาวนานในการใช้ เพราะครีมฮาดะลาโบะมีขนาดความเข้มข้นของสารอาร์บูตินอยู่น้อยมาก ทำให้ต้องใช้หลายขวดหลายรอบมากๆ และข้อดีก็คือทำให้ไม่แพ้ แต่ผลเสียก็คือเห็นผลช้านั่นแหละ

ครีม Vit C บูทติ้ง เซรั่ม

อันดับ 12

Vit C บูทติ้ง เซรั่ม เป็นเซรั่มบำรุงผิวที่บำรุงด้วยวิตามินซี ซึ่งก็เป็นผลิตภัณฑ์ของ Oriental Princess ซึ่งครีมมีความเบาบางและมีกลิ่นหอมของส้มด้วย และเมื่อใช้ไปนานๆ จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนแบบเห็นได้ชัด และยังช่วยให้ลดเลือนจุดด่างดำ สิวฝ้าได้ดีมากๆ แต่ก็ไม่เหมาะกับผิวที่แห้ง เป็นขุยง่าย เพราะเป็นครีมที่ไม่ให้ความชุ่มชื่นกับผิว และยังมีราคาที่แพง แถมยังมีส่วนผสมของน้ำหอมอยู่มากทีเดียว ซึ่งใครที่ไม่ชอบน้ำหอมก็เลี่ยงได้เลย

เลือกใช้ครีม สมูทโตะ โทเมโท คอลลาเจน ไวท์ เซรั่ม

อันดับ 11 

สมูทโตะ โทเมโท คอลลาเจน ไวท์ เซรั่ม เป็นเซรั่มที่หลายคนได้ยินมาว่าใช้ซองนี้หนึ่งซองจะได้เท่ากับกินมะเขือเทศ 10 ลูก ซึ่งก็เป็นครีมที่สาวๆ หลายคนชอบใช้ และมีขนาดเล็กเหมาะกับคนที่ชอบพกพาครีมไปที่ต่างๆ แถมยังมีราคาที่ไม่แพงและหาซื้อได้ง่ายมากๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาที่นานมากๆ ในการที่จะเห็นผล เพราะจะเน้นไปที่เรื่องกระชับรูขุมขนและการบำรุงมากกว่า และยังเป็นครีมที่ไม่มีกลิ่นหอมเลย ทำให้บางคนอาจจะไม่ชอบ แถมยังไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบมะเขือเทศ

ครีม Scentio White Collagen

อันดับ 10

Scentio White Collagen ผลิตภัณฑ์ของดีจาก บิวตี้ บุฟเฟ่ต์ ซึ่งเหมาะกับสาวๆ ผิวแห้ง และสาวๆ ผิวที่เป็นขุยอย่างมาก เพราะเป็นครีมที่ให้ความชุ่มชื่นของผิวเป็นอย่างมาก ซึ่งการใช้ก็ควรจะแตะไปหน้าเบาๆ แต่ก็ไม่เหมาะกับสาวๆ ที่อยากขาวไวๆ เพราะตัวนี้ก็เน้นไปที่การบำรุงและการชุ่มชื่นกับผิวเช่นกัน และครีมนี้ก็ยังมีกลิ่นน้ำหอมเล็กๆ ด้วย อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมนะ

เลือกใช้ครีม POND'S White Beauty Cream

อันดับ 9

POND’S White Beauty Cream ครีมดูแลผิวหน้าให้ดูขาวเรียบเนียนกระจ่างใสอมชมพู ตรงเข้าสยบ 10 ปัญหาผิวหมองคล้ำและจุดด่างดำที่จัดการยาก สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าชั้นนำทั่วไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันออกไป เพราะบางคนก็บอกว่าใช้ได้ดีมาก ช่วยให้หน้าขาวใสได้ดี แต่บางคนก็มีการแพ้และแสบหน้า ดังนั้นก่อนใช้ก็ควรจะเช็กให้ดีก่อน

ครีม Za True White

อันดับ 8 

Za True White เป็นครีมที่เป็นที่ชื่นชอบมากๆ ในกลุ่มสาวๆ วัยรุ่น เพราะมีส่วนผสมที่ช่วยในการยับยั้งสารที่ทำให้ผิวเราหมองคล้ำ และนอกจากนี้ยังทำให้ผิวเรากระจ่างใส ซึ่งก็เป็นครีมที่มีราคาแพงพอสมควร เพราะขายเป็นชุด แต่ก็อยากให้ลองใช้ผสมกับครีมประจำที่ใช้อยู่ รับรองว่าปังแน่นอน

เลือกใช้ครีม Fracora Placenta Extract

อันดับ 7

Fracora Placenta Extract เป็นครีมหน้าขาวที่ใช้รองพื้นก่อนที่จะใช้ครีมตัวประจำ เพราะจะทำให้หน้าขาวได้ไวขึ้น และครีมนี้เป็นครีมที่สกัดจากรกหมู ทำให้สาวๆ มุสลิมใช้ไม่ได้ และไม่เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นแรงๆ ของซอสญี่ปุ่น เพราะเจ้าตัวนี้กลิ่นแรงมาก

ครีม La Roche-Posay Effaclar Duo Plus

อันดับ 6 

La Roche-Posay Effaclar Duo Plus เนื้อครีมเจลที่ทาแล้วไม่เหนอะหนะผิว ทาไปแล้วให้ความชุ่มชื้นผิว  เหมาะกับคนที่เป็นสิวง่าย ผิวอักเสบ แพ้ง่ายบ่อยๆ ไม่มีกลิ่นที่แรง ลดการอักเสบของผิวและฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงสดใสขึ้น นอกจากจะช่วยบำรุงให้ผิวขาวกระจ่างใสแล้ว ตัวนี้ยังมีส่วนผสมของ LHA มาช่วยต้านแบคทีเรีย P.Acne ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว หาซื้อได้ง่ายแต่ราคาค่อนข้างแพง

SkinFood Yaja Water C

อันดับ 5 

SkinFood Yaja Water C เป็นครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเยอะมาก ซึ่งเป็นการสกัดจากส้มยูซุ แต่ก็เป็นครีมที่มีราคาแพงพอตัว ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผิวกระจ่างใสแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้หน้าดูเต่งตึงและกระชับได้ดีมากๆ แต่ไม่เหมาะกับสาวๆ ที่ผิวแพ้ง่าย เพราะมีส่วนผสมของน้ำหอมอยู่ ดังนั้นควรทดสอบการใช้ก่อน

ครีม Guerisson 9 Complex Cream

อันดับ 4 

Guerisson 9 Complex Cream ชื่ออาจไม่คุ้น แต่หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ครีมน้ำมันม้า แน่นอน เพราะเป็นครีมที่มาจากประเทศเกาหลี สรรพคุณคือช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส แต่ก็ต้องใช้งานไปนานพอสมควรกว่าจะเห็นผล เพราะเน้นไปที่การบำรุง และเน้นไปที่ความชุ่มชื่นมากกว่า

ครีม Loreal White Perfect Laser

อันดับ 3

Loreal White Perfect Laser ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า เป็นครีมที่ราคาแพงแต่ก็มีส่วนผสมของเซรั่มสูงมาก ซึ่งจะเห็นผลได้แค่ในช่วงเดือนแรกเท่านั้น แต่ก็ทำให้สิว ฝ้าทั้งหลายหายไปได้แน่นอน ซึ่งใครที่ชอบความขาวใสแบบทันตาก็ต้องรอนานนิดนึง

ครีม Neutrogena Hydro Boost Gel Cream

อันดับ 2

Neutrogena Hydro Boost Gel Cream เป็นครีมที่ใช้กันทั่วโลก เพราะสามารถช่วยในเรื่องความกระจ่างใส พร้อมกับความชุ่มชื่นในตัว และเหมาะมากๆ กับสาวๆ ที่ชอบความกระชับของผิว แต่ก็ทำให้ผิวแห้งได้ง่ายมาก ซึ่งก็ไม่เหมาะกับสาวผิวแห้งเลย

เลือกใช้ครีม SK-II GENOPTICS AURA ESSENCE

อันดับ 1

SK-II GENOPTICS AURA ESSENCE ผิวกระจ่างใสดูมีออร่า ด้วยส่วนประกอบจากพิเทร่าเข้มข้น และ GenOptics Aura Complex ที่จะช่วยลดเลือนการก่อตัวของจุดด่างดำทั้งที่มองเห็นและที่ซ่อนอยู่ภายใน ช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ปรับสีผิวขาวกระจ่างใสขึ้นและเปล่งประกาย ช่วยลดความหมองและจุดด่างดำ จะใช้เป็นเดย์ครีมก็ได้หรือไนต์ครีมก็ดี ไม่ทิ้งความเหนอะหรือความมันไว้บนผิวด้วย

ครีมบำรุงผิวหน้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือครีมที่ทำมาเพื่อลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างอายุ ซึ่งครีมเหล่านี้สามารถช่วยปรับปรุงลักษณะที่ปรากฏของผิวโดยการลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น และโดยการป้องกันผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม รวมถึงครีมบำรุงผิวหน้าที่ช่วยทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นทาแล้วช่วยบำรุงผิวให้ดีขึ้นได้จริง 

นี่ก็เป็นเพียง 15 อันดับที่เราคัดมาให้ได้เลือกกัน ใครที่ผิวแบบไหนก็ลองดูส่วนประกอบในการพิจารณาเลือกซื้อมาใช้กันได้ และมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน


10 สมุนไพรที่ดีต่อใจและดีต่อผิว หามาให้แล้วที่จะทำหน้าใสจริง

เลือกใช้ครีม

การใช้พวกสมุนไพรทาหน้าก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีประสิทธิภาพมากกว่ามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้าทั่วไป หรือมีเหตุผลอีกหลายประการที่ผู้คนอาจเลือกใช้ครีมทาหน้าสมุนไพร รวมทั้งความเชื่อที่ว่ามีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสุขภาพผิวมากขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และป้องกันมะเร็งผิวหนัง เนื่องจากมาธรรมชาติ

เราจึงได้เลือก 10 สมุนไพรที่ดีต่อใจและดีต่อผิวที่จะทำหน้าใสจริง จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันได้เลย

1. เลือกใช้ครีม สมุนไพรตะไคร้

ตะไคร้คือสมุนไพรยอดฮิตที่ใครๆ ก็นำมาผสมกับผลิตภัณฑ์ตัวเอง ซึ่งตะไคร้ก็เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ที่ช่วยต่อต้านการเกิดของเชื้อราบนผิวหนังของเราได้เป็นอย่างดี และตะไคร้ยังอุดมไปด้วยสารที่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ นั่นแปลว่าตะไคร้มีสามารถในการที่จะบำรุงผิวของเราได้ดี และยังช่วยให้ผิวหนังของเราเปล่งปลั่ง ดูกระจ่างใส พร้อมทั้งทำให้ผิวหนังเราดูอ่อนเยาว์ นุ่มเนียนอยู่เสมอ แถมยังช่วยลดสิว และรอยต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

2. ครีมสมุนไพรมะขามเปียก

มะขามเปียกคือสมุนไพรอย่างหนึ่ง ที่สามารถช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกในผิวหนังออกไปได้ เพราะมะขามเปียกมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ซึ่งจะช่วยในการกำจัดคราบสกปรกจากผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยบางตำราอาจจะใช้มะขามเปียกผสมกับน้ำอุ่น แล้วนำมาพอกที่ผิวหนัง โดยมะขามเปียกจะเน้นขัดไปที่บริเวณรอยด้านที่ผิวหนัง จำพวกฝ่ามือ ข้อศอก ตาตุ่ม หรือบริเวณรักแร้ และขาหนีบ ซึ่งจะสามารถช่วยทำให้ผิวหนังเราที่มีรอยดำจางลงไปได้ ซึ่งก็จะทำให้ผิวขาวนุ่มนวล น่าสัมผัสขึ้น

3. เลือกใช้ครีม สมุนไพรขมิ้นชัน

ในขมิ้นจะประกอบไปด้วยสารเคอร์คูมิน น้ำมันหอมระเหยของขมิ้น โดยขมิ้นจะมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยในการยับยั้งการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้หลากหลายชนิด โดยเราสามารถใช้ทาบนผิวหนังที่มีอาการเป็นผดผื่นคัน ซึ่งก็จะช่วยซ่าเชื้อได้ และการใช้ผงขมิ้นใช้ทาตัวจะทำให้ขาวขึ้น โดยสามารถใช้บำรุงผิวหรือใช้ฆ่าเชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังได้ดีอีกด้วย

4. ครีมสมุนไพรว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงผิว ซึ่งก็จะทำให้ผิวพรรณของเราดูเนียนนุ่มชุ่มชื้น และว่านหางจระเข้ยังสามารถแก้ปัญหาผิวแห้งกร้านบริเวณข้อศอก หัวเข่า หรือแถวๆ ส้นเท้าได้ โดยแค่ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ นำไปแช่ในน้ำเปล่าที่สะอาด โดยในขณะอาบอยู่ให้ใช้เนื้อวุ้นว่าน ถูตัวตามส่วนต่างๆ แต่ต้องระวังให้ล้างยางสีเหลืองในว่านออกให้หมดก่อน เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผิวกับคนผิวบาง

5. เลือกใช้ครีม สมุนไพรแตงกวา

แตงกวาเป็นสมุนไพรที่มีวิตามินสูง และในแตงกวาก็ยังมีตัวเอนไซม์อีเลพซิน ซึ่งมีความสามารถในการที่จะช่วยย่อยโปรตีนในร่างกายได้เป็นอย่างดี และเอนไซม์ชนิดนี้จะสามารถไปลอกผิวหนังที่หยาบกร้านให้หลุดออกไปจากผิวหนังได้ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ผิวของเราดูอ่อนนุ่ม น่าสัมผัสมากขึ้น โดยแตงกวาเป็นทั้งผลไม้และสมุนไพรที่มีประโยชน์ มีราคาถูก สามารถหาซื้อได้ตามตลาด หรือจะปลูกเองก็ได้ ถ้าใช้เป็นประจำรับรองว่าผิวสวย ดูสดชื่น และมีน้ำมีนวลนุ่มเนียนน่าสัมผัสแน่นอน 

6. ครีมสมุนไพรน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งอาจจะไม่ใช่สมุนไพรเสียทีเดียว แต่น้ำผึ้งก็มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการรักษาผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้ำผึ้งจะประกอบไปด้วยน้ำตาลฟรุกโตส น้ำตาลกลูโคส ขี้ผึ้ง และส่วนประกอบอื่นๆ ประกอบอยู่ปะปนกันไป โดยจะน้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบของครีมเครื่องสำอางส่วนมาก และส่วนใหญ่จะเป็นครีมสมุนไพรที่ใช้ในการพอกหน้า ซึ่งก็สามารถทำให้ผิวหน้าดูชุ่มชื่น มีความเปล่งประกาย และยังทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวลขึ้นอีกด้วย

7. เลือกใช้ครีม สมุนไพรมะพร้าว

ผลไม้มะพร้าวสามารถช่วยทำให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง มีประกาย ซึ่งก็จะไปทำให้ผิวเราดูขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ซึ่งทำให้ผิวดูขาวขึ้นได้

8. ครีมสมุนไพรน้ำมันมะกอก

มะกอกเป็นสมุนไพรที่ไม่ค่อยรู้จักกัน และสำหรับในน้ำมันมะกอกนั้นจะมีวิตามินอีปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีประโยชน์ต่อผิวเป็นอย่างมาก และยังช่วยบํารุงคอลลาเจนใต้ผิวหนังของเรา ซึ่งคอลลาเจนก็จะทำให้ผิวหนังของเรามีความเนียนนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ น่าสัมผัสยิ่งขึ้น

9. เลือกใช้ครีม สมุนไพรแครอท

แครอทเป็นสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เยอะพอสมควร โดยจะสามารถทำให้ผิวพรรณของเราดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส และยังช่วยในการชะลอความชราไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นเร็วได้อีกด้วย ซึ่งในทางกลับกันก็จะทำให้เราดูอ่อนเยาว์ขึ้นเป็นกอง

10. ครีมสมุนไพรมะละกอ

มะละกอเป็นสมุนไพรที่ประกอบไปด้วยเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมะละกอยังช่วยลดความอ้วนได้ดีอีกด้วย แถมเมื่อสุกแล้วก็จะอร่อย หวานหอม ที่สำคัญคือรักษาสิวได้ นี่แหละที่ต้องการกับการนำมาทำครีมสมุนไพรที่ดีสุดๆ

แม้ว่าการใช้ครีมทาหน้าสมุนไพรจะมีประโยชน์มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวหน้าแบบเดิมๆ และสิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งอาจรวมถึงการระคายเคืองผิวหนังและอาการแพ้ด้วย หากคุณกำลังจะใช้สมุนไพรเพื่อบำรุงผิวก็อย่าลืมเรื่องนี้ด้วย แม้จะเป็นของธรรมชาติแต่บางคนก็อาจจะแพ้ได้ ดังนั้น หากจะใช้อะไรก็เลือกใช้ให้เหมาะกับผิวของตัวเองจะดีที่สุด


อ้างอิง:

10 Tips On How To Choose The Right Moisturizer : https://www.alchimie-forever.com/blogs/the-alchemist-blog/10-tips-on-how-to-choose-the-right-moisturizer-for-your-skin

How to Choose the Skincare Products Best Suited for Your Skin : https://www.realsimple.com/beauty-fashion/skincare/how-to-choose-skin-care-products

สกินแคร์รูทีน 7 ขั้นตอนสกินแคร์ทาอย่างไรให้ผิวสวยใสแบบสาวเกาหลี 

สกินแคร์รูทีน 7 ขั้นตอนสกินแคร์ทาอย่างไรให้ผิวสวยใสแบบสาวเกาหลี 

สาว ๆ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมล่ะว่าทำไมผู้หญิงเกาหลีถึงได้มีผิวหน้าที่เนียนสวยแล้วก็กระจ่างใสกันได้ขนาดนั้น ซึ่งสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญกันก็คือการลงสกินแคร์รูทีนนั่นเอง วันนี้แอดมินจึงจะมาเผยขั้นตอนการลง สกินแคร์รูทีน ที่ถูกต้องกัน เพราะการเรียงลำดับการทาที่ถูกนั่นจะช่วยให้สกินแคร์ซึมซาบเข้าสู่ผิวหนังได้ดีและเห็นผลจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะไปดูขั้นตอนการทานั้น เรามาทำความรู้จักสกินแคร์แต่ละประเภทกันก่อนดีกว่า


สกินแคร์ มีกี่ประเภท? แต่ละประเภทช่วยเรื่องอะไรบ้าง 

สกินแคร์รูทีน

สกินแคร์แต่ละประเภทนั้นมีหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละประเภทก็ได้ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์ต่อการใช้งานตามปัญหาผิวและสภาพผิวที่แตกต่างกันของแต่ละคน มาดูกันว่าจะมีประเภทอะไรบ้าง


1.ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า 

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าหรือ คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอางดีๆ จะมีลักษณะเป็นของเหลวและมาในรูปแบบ น้ำ เจล หรือ ออยล์ สามารถใช้โดยการนวดที่หน้าได้โดยตรงหรือจะหยดลงบนสำลีแล้วเช็ดบนผิวหน้าก็ได้ ผู้ที่แต่งหน้าหรือทาครีมกันแดดต้องใช้คลีนซิ่งเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันบนในหน้า


2.ผลิตภัณฑ์หน้าล้าง

สิ่งนี้จะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าและช่วยขจัดคราบความมันบนใบหน้า รวมถึงสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในรูขุมขน ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบ โฟมล้างหน้า เจลล้างหน้า และสบู่ก้อน


3.โทนเนอร์

Toner เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าที่ช่วยให้ผิวหน้าสะอาดหมดจดยิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนใหญ่มักมาในเนื้อโลชั่นบาง ๆ และมักจะมีวิตามินช่วยบำรุงผิว

4.มอยส์เจอร์ไรเซอร์

ผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีส่วนผสมของโลชั่นและครีม ผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวมันก็สามารถทาได้เพราะจะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นไว้ ทำให้ผิวไม่ขาดน้ำจึงสามารถช่วยลดความมันบนใบหน้าได้

5.ครีม

สกินแคร์ประเภทนี้มีส่วนผสมของน้ำมันเยอะมากกว่าประเภทอื่น ๆ เนื้อจึงมีความเข้มข้นที่สุดและอาจทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ช้า แต่มันสามารถคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีที่สุดจึงเหมาะกับคนผิวแห้งมากที่สุด โดยคุณสามารถบำรุงด้วยไนท์ครีมในตอนกลางคืน ส่วนตอนกลางวันก็บำรุงด้วยครีมทั่วไปได้

6.โลชั่น

โลชั่นไม่ได้มีไว้สำหรับบำรุงผิวกายเท่านั้น เพราะผิวหน้าก็สามารถบำรุงด้วยได้ด้วยเช่นกัน โดยมันจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวใช้ได้ทั้งผู้ที่มีผิวธรรมดาและผิวผสม ซึ่งโลชั่นที่ทางฝั่งเอเชียนิยมใช้และไม่หนักหน้าจนเกินไปจะมาในรูปแบบที่เราเรียกกันว่า ‘น้ำตบ’ นั่นเอง

7.เอสเซนส์

อีกหนึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในขั้นตอนแรก ๆ ซึ่งเอสเซนส์จะมีลักษณะเป็นน้ำเหลว ๆ บางเบา จึงซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าสภาพผิวแบบไหนก็สามารถใช้ได้ โดยส่วนใหญ่มักจะมาในรูปแบบน้ำตบเช่นเดียวกัน

8.เซรั่ม 

ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะมีความเข้มข้นว่าเอสเซนต์และมีส่วนผสมของน้ำมันค่อนข้างมาก จึงไม่ค่อยเหมาะสำหรับคนผิวมันเท่าไหร่ แต่มันสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก เช่น ลดรอยสิว ลดริ้วรอย และปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ

9.ผลิตภัณฑ์กันแดด 

ในตอนเช้าต้องทาผลิตภัณฑ์กันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV หากผู้ที่ไม่ได้ทากันแดดในตอนเช้านั้นอาจส่งผลให้รังสียูวีเข้าไปทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นและเกิดฝ้า กระ ตามมาได้ โดยผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะมีทั้งในรูปแบบครีม เจล โลชั่น สเปรย์ และขี้ผึ้ง 


7 ลำดับการทา สกินแคร์รูทีน ที่ถูกต้อง

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับสกินแคร์แต่ละประเภทกันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่าขั้นตอนการลงสกินแคร์รูทีนที่ถูกต้องนั้น ต้องเรียงลำดับการทาอย่างไรบ้าง


Step 1 : เช็ดผิวหน้าด้วยคลีนซิ่ง

สกินแคร์รูทีน

หลังจากที่ผิวหน้าของเราเผชิญเครื่องสำอาง ฝุ่น และมลพิษต่าง ๆ มาทั้งวันแล้วควรเช็ดผิวหน้าให้สะอาดด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ก่อน เพื่อให้ผิวหน้าสะอาดและขจัดสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตันในรูขุมขน 


Step 2 : ล้างหน้าให้สะอาด

สกินแคร์รูทีน

เมื่อขจัดสิ่งสกปรกออกจากผิวหน้าไปแล้ว ต่อไปคือขั้นตอนการล้างหน้าเพื่อลดความมันบนใบหน้าและทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก


Step 3 : เช็ดด้วยโทนเนอร์

สกินแคร์รูทีน

การใช้โทนเนอร์จะช่วยขจัดคราบต่าง ๆ บนใบหน้าให้ผิวสะอาดมากยิ่งขึ้นทำให้ลดการอุดตันของสิ่งสกปรกและช่วยลดการเกิดสิวได้


Step 4 : ลงเอสเซนส์

สกินแคร์รูทีน

ต่อไปก็เริ่มบำรุงผิวหน้าโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหลวมากที่สุดก่อน นั้นก็คือการลงเอสเซนส์หรือน้ำตบเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผิวในการลงสกินแคร์ รูทีนขั้นต่อไป


Step 5 : ลงผลิตภัณฑ์รักษาสิว

สกินแคร์รูทีน

สำหรับผู้ที่เป็นผิว สามารถลงครีมรักษาสิวเฉพาะจุดได้ก่อนเลยและควรเลือกเป็นครีมชนิดที่ซึมเข้าผิวไว เพราะต้องรอให้เนื้อครีมซึมเข้าผิวจนแห้งสนิทก่อนจึงจะสามารถลงสกินแคร์ในขั้นต่อไปได้


Step 6 : ทาเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์

สกินแคร์รูทีน

สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งหรือผิวมันก็สามารถลงเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ได้เช่นกันเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและไม่ขาดน้ำ ทำให้เป็นสกินแคร์วัย 30+ที่คนอายุเริ่มเข้าเลข 3 ต้องใช้ทุกคน


Step 7 : ทาครีมกันแดด

สกินแคร์รูทีน

ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นหนึ่งสเตปที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับในตอนเช้าไม่ว่าคุณจะออกจากบ้านหรือไม่ก็ตามควรทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ไม่ให้ทำลายผิวหน้า ผู้ที่ไม่ได้ทาครีมกันแดดอาจจะเกิดฝ้าและกระบนใบหน้าได้ รวมถึงทำให้หน้าเหี่ยวย่นก่อนวัยอีกด้วย


ทั้งหมดนี้ก็คือลำดับในการทาสกินแคร์รูทีนอย่างถูกวิธีนั่นเอง หากคุณบำรุงตามขั้นตอนดังต่อไปนี้มันก็จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญสาว ๆ แต่ละคนก็อย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองด้วยเพื่อให้สกินแคร์เหล่านั้นบำรุงได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ผิวของเราจะได้เนียนใสปิ๊งเหมือนสาวเกาหลี


อ้างอิง:

https://www.lifestyleissue.com/beauty/skincare-types/ 

https://vogue.co.th/beauty/6-step-skin-care-for-oily-skin